Tyson Foods นำสินค้าประเภทไส้กรอกของ Jimmy Dean ออกจากกรอบ "โอกาสพิเศษ" ด้วยเทคโนโลยี AR และ VR

เมื่อคุณเป็นแบรนด์ที่มีสินค้ายอดเยี่ยม แต่ดูเหมือนว่าจะขายได้เพียงบางช่วงเวลาของปี คุณอาจถามตัวเองว่า: เราจะออกจากกรอบ "โอกาสพิเศษ" ได้อย่างไร นั่นคือจุดที่ Tyson Foods ค้นพบตัวเองเมื่อดูยอดขายสินค้าในกลุ่มไส้กรอกสดของ Jimmy Dean การวิจัยของพวกเขาพบว่าลูกค้าซื้อและรับประทานสินค้าประเภทไส้กรอกเป็นอาหารเช้าในช่วงสุดสัปดาห์หรือช่วงเทศกาลวันหยุดเป็นส่วนใหญ่ อย่างไรก็ตาม Tyson Foods ต้องการหาวิธีทำให้สินค้าในกลุ่มไส้กรอกสดของ Jimmy Dean เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันของลูกค้ามากขึ้น

ที่งาน CES หนึ่งในงานประชุมด้านเทคโนโลยีที่ทรงอิทธิพลมากที่สุดในโลก HAQM Ads นั่งคุยกับผู้นำแบรนด์และพันธมิตรตัวแทนโฆษณาในสตูดิโอเนื้อหาของเรา เพื่อหารือเกี่ยวกับวิธีการเชื่อมต่อกับกลุ่มเป้าหมาย การครองอันดับหนึ่งในใจ และการสร้างแรงบันดาลใจให้เกิดความรักและความภักดีต่อแบรนด์ ในการประชุมปี 2023 เราได้สัมภาษณ์ Clare Liston ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อโฆษณาที่ต้องจ่ายเงินที่ Tyson Foods ซึ่งเธอดูแลการลงทุนด้านสื่อโฆษณาที่ต้องจ่ายเงินทั้งหมดในพอร์ตโฟลิโอแบรนด์ค้าปลีกของบริษัทซึ่งรวมถึง Jimmy Dean, Hillshire Farm, Hillshire Snacking, Ball Park, Aidells และ Wright Brand

ความท้าทายของเราที่ Jimmy Dean คือผู้บริโภคซื้อไส้กรอกแท่งสดของเราเพียงปีละ 1-2 ครั้งเท่านั้น ส่วนใหญ่มักจะเป็นช่วงวันหยุดเทศกาล แต่เราต้องการให้พวกเขามีเหตุผลที่จะคิดถึง Jimmy Dean ในช่วงเวลาอื่นของปี

เมื่อเราเริ่มคิดว่าเราจะทำให้ผู้คนนำไส้กรอกสด Jimmy Dean ออกจากกรอบ "โอกาสพิเศษ" ได้อย่างไร เราถามตัวเองว่าถ้าพวกเขาไม่กินไส้กรอก พวกเขากินอะไรบ่อยที่สุด

เราจึงหันมาสนใจไข่และค้นพบข้อมูลเชิงลึกว่าคนอเมริกันกินไข่โดยเฉลี่ย 279 ฟองต่อปี ถ้าเราจะอยู่บนโต๊ะอาหารเช้าบ่อยขึ้น เราต้องเริ่มดึงความสนใจจากไข่และวางตำแหน่ง Jimmy Dean ให้เป็นอาหารที่จับคู่กับไข่ได้อย่างสมบูรณ์แบบ

เราใช้แมชชีนเลิร์นนิ่งในการฝึกตัวกรองมือถือเพื่อตรวจจับไข่เมื่อสแกน จากนั้น เราร่วมมือกับ Snapchat และ HAQM Ads เพื่อสร้างประสบการณ์ AR/VR ที่ผู้บริโภคสามารถสแกนไข่ด้วยโทรศัพท์เพื่อปลดล็อก "คูปอง" ในร้านค้า HAQM และนำไปแลกไส้กรอก Jimmy Dean ฟรีหนึ่งอัน

เรารู้ว่าเราสามารถต่อยอดข้อความ "เปลี่ยนไข่เป็นไส้กรอก" ผ่านช่องทางต่าง ๆ ของ HAQM เช่น เสียง วิดีโอ ดิสเพลย์ และแม้แต่ใส่ข้อความบนบรรจุภัณฑ์เพื่อกระตุ้นการมีส่วนร่วมของผู้บริโภค

ประสบการณ์สร้างสรรค์เหล่านี้ทำให้แบรนด์มีโอกาสพิเศษในการเชื่อมต่อกับผู้บริโภคในรูปแบบที่ทั้งสนุกและใช้งานได้จริง

ผู้บริโภคมีปฏิกิริยาตอบสนองโดยการมีส่วนร่วมกับประสบการณ์ AR ที่มีแบรนด์ไปจนถึงการเกิดคอนเวอร์ชันแทบจะในทันที ใน Snapchat เลนส์สแกนไข่ใช้เวลาเล่นเฉลี่ย 12.31 วินาที (สูงกว่าค่าเฉลี่ยที่ 7 ถึง 10) และมีอัตราการแชร์สูงกว่าค่าเฉลี่ยของแอป 41% ¹ เทคโนโลยี Egg Scan กระตุ้นยอดเข้าชมคูปองใน HAQM Store มากกว่า 75,000 ครั้ง และกระตุ้นให้เกิดการแลกไส้กรอกมากกว่า 400 ครั้ง ² ห้าสิบสองเปอร์เซ็นต์ของลูกค้าเหล่านั้นเป็นลูกค้าใหม่ของแบรนด์ ³ ภาพใหญ่ เราเห็นยอดขายเติบโต 28.7% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปี 2019 แสดงให้เห็นว่าแคมเปญทั้งหมดสร้างการรับรู้และการซื้อนอกกรอบเวลาของการซื้อในช่วงวันหยุดปกติได้อย่างมีประสิทธิภาพ ⁴

เรารู้สึกกระตือรือร้นเกี่ยวกับแคมเปญ Egg Hack ตลอดทั้งกระบวนการวางแผนและการเปิดใช้งานแคมเปญ แต่มากยิ่งไปกว่านั้นเมื่อเราเห็นความสำเร็จในทันทีของการทำงานร่วมกับ HAQM Ads

ผมคิดว่าแคมเปญนี้โดดเด่น เพราะทั้งข้อมูลเชิงลึกและเป้าหมายของแคมเปญมีความชัดเจนมาก ในการดำเนินการผ่านสื่อโฆษณาที่ต้องจ่ายเงินทั้งหมด เราพยายามย้ำเตือนผู้บริโภคว่าไข่จะอร่อยขึ้นเมื่อกินร่วมกับไส้กรอก และประสบการณ์ AR/VR เป็นวิธีที่สนุกจริง ๆ ในการทำให้สิ่งนั้นเป็นจริง

การทำงานร่วมกับ HAQM Ads เป็นเรื่องที่น่าทึ่ง ความเข้าใจอย่างลึกซึ้งของ HAQM Ads เกี่ยวกับประสบการณ์สื่อที่มีแบรนด์คือสิ่งที่ทำให้แคมเปญนี้เป็นไปได้ HAQM Ads สามารถช่วยเราเปลี่ยนการกระตุ้นตรงหน้าผู้บริโภคเป็นคอนเวอร์ชันจริงในการค้าปลีก เมื่อเราบอก HAQM Ads ว่าเราต้องการใช้เทคโนโลยี AR/VR เพื่อสร้างประสบการณ์ใหม่ พวกเขาให้ความสนใจและตื่นเต้นมาก พร้อมทุ่มเททุกวิถีทางเพื่อทำให้โปรแกรมบรรลุเป้าหมาย และผลลัพธ์ที่ได้ก็พิสูจน์ความสำเร็จของมันได้อย่างชัดเจน

เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับโซลูชันโฆษณาแบบกำหนดเองหรือติดต่อเพื่อสำรวจวิธีที่แบรนด์ของคุณจะได้รับประโยชน์จากกลยุทธ์ชิ้นงานโฆษณา