คู่มือ
OTT คืออะไร คู่มือการใช้ Over-the-top (OTT) ฉบับสมบูรณ์
โฆษณา OTT หรือที่รู้จักในชื่อโฆษณาสตรีมมิ่งทีวี เป็นโฆษณาที่ส่งมอบไปยังผู้ชมพร้อมเนื้อหาวิดีโอนี้ OTT หรือสตรีมมิ่งทีวีเปิดโอกาสให้ผู้โฆษณาเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายใหม่ ๆ ในวงกว้าง เนื่องจากมีผู้ชมหันมาดูเนื้อหาวิดีโอสตรีมมิ่งแทนเคเบิลทีวีและทีวีที่มีการออกอากาศแบบดั้งเดิมมากขึ้น
เริ่มใช้ HAQM Ads เพื่อแสดงสินค้าและสร้างแคมเปญของคุณ
หากคุณมีประสบการณ์จำกัด โปรดติดต่อเราเพื่อขอรับบริการแบบมีการจัดการโดย HAQM Ads มีข้อกำหนดด้านงบประมาณขั้นต่ำ
สตรีมมิ่งทีวีและโฆษณาวิดีโอออนไลน์สามารถช่วยคุณแชร์ข้อความของแบรนด์กับกลุ่มเป้าหมายที่ไม่ซ้ำกันและมีความเกี่ยวข้อง
ปรากฏอยู่ในสถานที่ที่คนทั่วโลกกำลังรับชมอยู่ เพิ่มการเข้าถึงของคุณโดยใช้โฆษณาสตรีมมิ่งทีวีที่ปรากฏขึ้นในรายการและภาพยนตร์ที่ได้รับรางวัลบน Prime Video
ข้ามไปยัง:
หากคุณเคยตื่นเต้นไปกับการดูรายการบน Prime Video, การสตรีมอีเว้นต์สดบน Twitch หรือการดูแอปออกอากาศทางเครือข่ายที่คุณโปรดปรานบน Fire TV นั่นหมายความว่าคุณเคยได้สัมผัสประสบการณ์ของเนื้อหาวิดีโอแบบ over-the-top (OTT) แล้ว OTT ซึ่งบางครั้งเรียกว่าสตรีมมิ่งทีวี หมายถึงเนื้อหาต่าง ๆ ที่ส่งมอบตรงไปยังผู้ชมผ่านบริการวิดีโอสตรีมมิ่งทางอินเทอร์เน็ตแทนกล่องโทรทัศน์ที่ต้องต่อสายแบบดั้งเดิม ซึ่งโดยทั่วไปจะเป็นการดูบนทีวี
โฆษณา OTT หรือที่รู้จักในชื่อโฆษณาสตรีมมิ่งทีวี เป็นโฆษณาที่ส่งมอบไปยังผู้ชมพร้อมเนื้อหาวิดีโอนี้ OTT หรือสตรีมมิ่งทีวีเปิดโอกาสให้ผู้โฆษณาเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายใหม่ ๆ ในวงกว้าง เนื่องจากมีผู้ชมหันมาดูเนื้อหาวิดีโอสตรีมมิ่งแทนเคเบิลทีวีและทีวีที่มีการออกอากาศแบบดั้งเดิมมากขึ้น ในโพสต์นี้ เราจะอธิบายภาพรวมของการโฆษณา OTT, ความหมายของศัพท์ที่พบบ่อย และแบ่งปันวิธีที่โฆษณาสตรีมมิ่งทีวีและโฆษณาวิดีโอออนไลน์ของ HAQM ช่วยให้แบรนด์ต่าง ๆ ส่งมอบข้อความไปสู่ผู้ชมได้ในวงกว้าง
OTT: ความหมายและคำจำกัดความ
ดังที่กล่าวไว้ OTT หรือสตรีมมิ่งทีวีหมายถึงเนื้อหาสื่อสตรีมมิ่งประเภทใดก็ตามที่ส่งผ่านอินเทอร์เน็ต รวมถึงบริการสตรีมมิ่งแบบสมัครใช้งาน ซึ่งผู้บริโภคสามารถเข้าถึงเนื้อหาตามความต้องการ โดยไม่ต้องผ่านผู้ให้บริการดาวเทียมหรือเคเบิลแบบเดิม ผู้ชมสามารถรับชมเนื้อหา OTT ในอุปกรณ์ต่าง ๆ เช่น โทรศัพท์มือถือ เกมคอนโซล และแท็บเลต แต่การรับชมส่วนใหญ่เกิดขึ้นบนทีวีที่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต (CTV)

การเลิกใช้เคเบิลทีวีคืออะไร
การเลิกใช้เคเบิลทีวี ซึ่งหมายถึงการที่ครัวเรือนยกเลิกการสมัครใช้งานเคเบิลทีวีหรือทีวีดาวเทียมเป็นตัวผลักดันให้ผู้บริโภคสตรีมวิดีโอผ่านทีวีที่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตมากขึ้น ณ เดือนพฤษภาคม 2023 สัดส่วนครัวเรือนในสหรัฐอเมริกาที่ใช้เคเบิลทีวีลดลงจาก 46.4% เหลือเพียง 12% ภายในเวลาเพียงหนึ่งปี1 ในขณะเดียวกัน 99% ของครัวเรือนในสหรัฐอเมริกาขณะนี้สมัครใช้งานบริการสตรีมมิ่งหนึ่งบริการขึ้นไป2 การเปลี่ยนแปลงนี้เป็นโอกาสอันยิ่งใหญ่สำหรับแบรนด์ในการผนวกโฆษณาสตรีมมิ่งทีวีเข้าไปในกลยุทธ์สื่อของตน
นอกจากการยกเลิกเคเบิลทีวีแล้ว ยังมี “การลดแพ็กเกจ” ซึ่งหมายถึงการลดแพ็กเกจสมาชิกเคเบิลทีวีลงเป็นแพ็กเกจต่ำสุด แต่ยังคงใช้บริการสตรีมมิ่ง แล้วก็มีผู้ที่ “ไม่ยอมจ่ายเงิน” เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งหมายถึงผู้ที่ไม่เคยเสียเงินให้กับการสมัครสมาชิกทีวีหรือช่องพรีเมียม
ต่อไปนี้คือคำสำคัญบางคำที่ผู้โฆษณาควรรู้เกี่ยวกับสตรีมมิ่งทีวี
สตรีมมิ่งทีวีคืออะไร
สตรีมมิ่งทีวี หมายถึงการเผยแพร่เนื้อหาโทรทัศน์ผ่านทางอินเทอร์เน็ตไปยังอุปกรณ์ผู้ใช้สำหรับการรับชมตามความต้องการ HAQM Prime Video เป็นตัวอย่างของสตรีมมิ่งทีวีที่ผู้ใช้สามารถเข้าถึงภาพยนตร์ รายการทีวี และเนื้อหาต้นฉบับจำนวนมากได้โดยตรงผ่านอินเทอร์เน็ต โดยไม่ต้องสมัครสมาชิกเคเบิลหรือดาวเทียมแบบดั้งเดิม
Advanced TV
Advanced TV เป็นคำที่ครอบคลุม ซึ่งหมายถึงเนื้อหาสตรีมมิ่งที่นอกเหนือไปจากรูปแบบการเผยแพร่เนื้อหาทีวีแบบเดิมไปยังอุปกรณ์และแอพอื่นๆ บริการทั้งหลายเหล่านี้มีการเรียกเป็นอักษรย่อ เช่น OTT, CTV, TVE, OLV, VOD, SVOD, TVOD, AVOD และ PVOD เรามาดูความหมายและรูปแบบการทำงานของคำย่อเหล่านี้กัน

ทีวีที่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต (CTV)
ทีวีที่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต เป็นอุปกรณ์ที่สามารถเชื่อมต่อกับทีวีหรือสมาร์ททีวี และใช้เพื่อส่งมอบเนื้อหาวิดีโอแบบสตรีมมิ่ง บริการเหล่านี้กำลังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ โดยคาดการณ์ว่า ภายในปี 2026 จะมีประชากรสหรัฐฯ ถึง 69.9% ที่เป็นผู้ใช้ CTV3 ทั้งนี้ CTV หมายรวมถึงเครื่องเล่นเกม สมาร์ททีวี หรืออุปกรณ์เล่นสื่อดิจิทัล โดยหลักแล้ว CTV เป็นอุปกรณ์ที่ช่วยให้คุณสามารถเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตเพื่อเข้าถึงเนื้อหาวิดีโอ

TV everywhere (TVE)
TV Everywhere (TVE) ช่วยให้ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงเนื้อหาความบันเทิงที่ต้องการผ่านทางอินเทอร์เน็ตได้ทุกที่ เพียงแค่ใช้ข้อมูลประจำตัวลงชื่อเข้าใช้ในระบบบริการแบบต้องสมัครสมาชิกที่ตนชื่นชอบ บางครั้งเรียกว่าสตรีมมิ่งแบบถูกลิขสิทธิ์หรือวิดีโอออนดีมานด์ (VOD) แบบถูกลิขสิทธิ์ TVE ได้ทำลายกรอบของทีวีแบบดั้งเดิม โดยผู้ชมจะสามารถสตรีมเนื้อหาที่ชื่นชอบได้ทั้งที่บ้าน บนรถบัส หรือที่ชายหาด ทุกที่ที่มีการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต

โฆษณาวิดีโอออนไลน์ (OLV)
โฆษณาวิดีโอออนไลน์ (OLV) จะปรากฎขึ้นก่อน ระหว่าง และหลังเนื้อหาวิดีโอบนเว็บไซต์ โฆษณา OLV จะปรากฏขึ้นแบบทั้งในสตรีมและนอกสตรีม ในเบราว์เซอร์และแอป ตลอดจนบนอุปกรณ์ต่าง ๆ เช่น เดสก์ท็อป มือถือ และแท็บเล็ต โฆษณา OLV ยังสามารถฝังตัวอยู่ในบทความออนไลน์หรือผ่านโฆษณาแบนเนอร์ที่ปรากฏในรูปแบบต่าง ๆ เช่น วิดีโอในฟีด วิดีโอในบทความหรือวิดีโอที่ปรากฏขึ้นตอนกำลังอ่าน วิดีโอในแบนเนอร์ และวิดีโอคั่นระหว่างหน้า

วีดีโอออนดีมานด์ (VOD)
วิดีโอออนดีมานด์ (VOD) คือเนื้อหาวิดีโอที่ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงได้เมื่อพวกเขาต้องการ VOD แบ่งออกเป็น 4 ประเภทหลัก ๆ ได้แก่ วิดีโอออนดีมานด์แบบสมาชิก (SVOD), วิดีโอออนดีมานด์แบบรายครั้ง (TVOD), วิดีโอออนดีมานด์แบบมีโฆษณา (AVOD) และวิดีโอออนดีมานด์แบบพรีเมียม (PVOD) ความแตกต่างระหว่างวิดีโอทั้ง 4 ประเภทมีรายละเอียดดังนี้
SVOD
วิดีโอออนดีมานด์แบบสมาชิก (SVOD) เป็นเนื้อหาที่เข้าถึงได้สำหรับผู้บริโภคที่ได้สมัครสมาชิกบริการนั้นๆ เท่านั้น โดยผู้บริโภคจะดูเนื้อหาได้มากเท่าที่ต้องการในราคาคงที่ต่อเดือน ตัวอย่างวิดีโอแบบนี้ได้แก่ HAQM Prime Video
TVOD
เนื้อหาวิดีโอออนดีมานด์แบบรายครั้ง (TVOD) สามารถซื้อได้ในรูปแบบ pay-per view ผู้ชมสามารถซื้อเนื้อหาสำหรับการดูซ้ำ หรือเช่าสำหรับการใช้งานเพียงครั้งเดียว ตัวอย่างของบริการ TVOD ได้แก่ HAQM Prime Video Store
AVOD
วิดีโอออนดีมานด์แบบมีโฆษณา (AVOD) ไม่ต้องมีการสมัครใช้งานหรือเสียค่าธรรมเนียมเป็นรายครั้ง เนื่องจากเป็นเนื้อหาที่มีโฆษณา ตัวอย่างของบริการ AVOD คือเนื้อหาสตรีมมิ่งฟรีบน Prime Video ผู้ชมกำลังเพิ่ม AVOD เป็นตัวเลือกเพื่อการสตรีมที่มีเนื้อหาหลากหลายยิ่งขึ้น มีการคาดการณ์ว่า 57.5% ของประชากรสหรัฐฯ จะรับชมเนื้อหาแบบ AVOD ภายในปี 20264
PVOD
วิดีโอออนดีมานด์แบบพรีเมียม (PVOD) เป็นแนวคิดที่ใหม่กว่า ซึ่งสตูดิโอภาพยนตร์และผู้ให้บริการรายอื่นนำเสนอเนื้อหาวิดีโอระดับพรีเมียม เช่น การเข้าถึงรอบปฐมทัศน์ภาพยนตร์ซึ่งจะคิดค่าบริการในราคาที่สูงขึ้น เนื้อหาประเภทนี้แพร่หลายมากขึ้นในปีที่ผ่านมา เนื่องจากสตูดิโอบางแห่งได้เผยแพร่ภาพยนตร์ไปยังบริการสตรีมมิ่งโดยตรง ในขณะที่โรงภาพยนตร์หลายแห่งปิดตัวลง
OTT vs. VOD เทียบกับ CTV
ตัวย่อเหล่านี้สับสนได้ง่ายเนื่องจากมีความคล้ายคลึงกันมาก OTT เกี่ยวข้องกับวิธีการเผยแพร่เนื้อหา ซึ่งกระทำผ่านอินเทอร์เน็ต ในขณะที่ VOD เกี่ยวข้องกับวิธีการที่ผู้บริโภคเข้าถึงเนื้อหา ไม่ว่าจะเป็นการซื้อครั้งเดียว การสมัครสมาชิก หรือโดยการดูโฆษณา CTV เป็นอุปกรณ์ที่ผู้ชมใช้ในการเข้าถึงเนื้อหา
แนวโน้มอุตสาหกรรม OTT
อุตสาหกรรม OTT ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยพฤติกรรมการเลิกใช้เคเบิลทีวีกำลังพลิกโฉมวงการบันเทิง ปี 2023 มีการคาดการณ์ว่า 60% ของครัวเรือนในสหรัฐอเมริกาไม่ได้ใช้บริการจากผู้ให้บริการโทรคมนาคม เคเบิล หรือทีวีดาวเทียมอีกต่อไป และมีพยากรณ์ว่าแนวโน้มนี้จะยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องไปจนถึงปี 20265
จากผลสำรวจในเดือนมีนาคม 2024 พบว่า 10% ของประชากรสหรัฐฯ ระบุว่าพวกเขามีแนวโน้มอย่างยิ่งที่จะยกเลิกบริการโทรทัศน์แบบชำระเงินภายใน 12 เดือนข้างหน้า กลุ่มคนส่วนใหญ่ที่วางแผนจะเลิกใช้เคเบิลทีวีมีอายุอยู่ระหว่าง 35 ถึง 55 ปี ขณะที่ครึ่งหนึ่งของผู้ที่มีอายุมากกว่า 55 ปีระบุว่าไม่มีแผนจะยกเลิกบริการโทรทัศน์แบบชำระเงินในปีถัดไป6
เหตุใดนักการตลาดจึงควรเพิ่มการโฆษณาสตรีมมิ่งทีวีลงในส่วนผสมของสื่อ
แวดวงความบันเทิงกำลังก้าวไปไกลกว่าเคเบิล และกำลังดำเนินไปอย่างรวดเร็ว พูดง่าย ๆ คือ ผู้คนจำนวนมากขึ้นกว่าเดิมกำลังรับชมเนื้อหาในสถานที่อื่น ๆ มากขึ้นกว่าที่เคย ครัวเรือนโดยเฉลี่ยใช้บริการสตรีมมิ่งที่แตกต่างกันถึงห้าบริการครึ่ง โดยผู้ใช้งานมักเข้าออกแอปต่าง ๆ เพื่อรับชมรายการเฉพาะเจาะจง7 การโฆษณาสตรีมมิ่งทีวีจึงไม่ใช่แค่ช่องทางในการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายเท่านั้น แต่ยังกลายเป็นช่องทางเดียวในการเปลี่ยนช่วงเวลาธรรมดาให้กลายเป็นการสร้างความสัมพันธ์ที่ยั่งยืนกับลูกค้า ทำให้โฆษณารูปแบบนี้กลายเป็นส่วนสำคัญในส่วนผสมของสื่อสำหรับแบรนด์

โฆษณา OTT เทียบกับการโฆษณาวิดีโอ
โฆษณา OTT จะถูกส่งผ่านอินเทอร์เน็ตทางอุปกรณ์สตรีมมิ่ง โฆษณาวิดีโอเป็นคำเรียกรวม ๆ ของการโฆษณาในรูปแบบวิดีโอทั้งหมด ซึ่งรวมถึง OTT, OLV และอื่น ๆ การโฆษณาทั้งสองประเภทช่วยให้แบรนด์เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่เกี่ยวข้องมากที่สุดตลอดเส้นทางของลูกค้าโดยใช้ประโยชน์จากสัญญาณการจับจ่ายและสตรีมมิ่ง

โฆษณาสตรีมมิ่งทีวีปรากฏที่ไหนบ้าง
โฆษณาสตรีมมิ่งทีวีสามารถปรากฏขึ้นบนพื้นที่โฆษณาประเภทต่าง ๆ หลายประเภท และเป็นการปรากฏขึ้นแบบตั้งโปรแกรม ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับกลุ่มเป้าหมายที่แบรนด์พยายามเข้าถึง พวกเขาสามารถแสดงโฆษณาได้ทุกที่จากเนื้อหาสตรีมมิ่งฟรีบน Prime Video หรือผ่านแอปผู้แพร่ภาพกระจายเสียงในเครือข่ายทีวี เช่น Discovery รวมถึงระหว่างการถ่ายทอดสดกีฬา เช่น Thursday Night Football หรือในแอป News บน Fire TV
แนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดในการโฆษณาสตรีมมิ่งทีวี
แคมเปญการโฆษณาสตรีมมิ่งทีวีที่มีประสิทธิภาพจะใช้ประโยชน์จากข้อมูลเชิงลึกของกลุ่มเป้าหมายและเซ็กเมนต์กลุ่มเป้าหมาย ตัวอย่างเช่น HAQM Ads ช่วยให้แบรนด์สามารถสร้างการมีส่วนร่วมกับกลุ่มเป้าหมาย โดยอิงจากข้อมูลเชิงลึกของบุคคลที่หนึ่งระดับล้านล้านรายการ แนวทางแบบระบุกลุ่มเป้าหมายนี้ช่วยส่งมอบผลลัพธ์ที่ตรวจวัดได้ แคมเปญ HAQM สตรีมมิ่งทีวีมีประสิทธิภาพในการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายตามที่ตั้งไว้เกือบสองเท่าของแคมเปญทีวีแบบดั้งเดิม8
แคมเปญที่ประสบความสำเร็จจะต้องยึดมั่นในข้อความและน้ำเสียงของแบรนด์ โดยจะปรากฏควบคู่ไปกับเนื้อหาที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นรายการทีวีและภาพยนตร์ยอดนิยม ข่าวที่คัดสรรมาแล้ว หรือกีฬาถ่ายทอดสด นอกจากนี้ โฆษณาสตรีมมิ่งทีวีที่มีคำกระตุ้นให้ดำเนินการ (CTA) ที่ชัดเจน เช่น การเยี่ยมชมเว็บไซต์ อาจเป็นประโยชน์ เนื่องจากผู้ชมอาจมีอุปกรณ์อยู่ใกล้ ๆ ขณะสตรีมเนื้อหาเพื่อดำเนินการตาม CTA หากจำเป็นต้องทำเช่นนั้น
การตรวจวัดการโฆษณาสตรีมมิ่งทีวี
การตรวจวัดเป็นองค์ประกอบที่สำคัญของแคมเปญโฆษณาดิจิตอลทุกประเภทรวมถึงการโฆษณาสตรีมมิ่งทีวี ผู้โฆษณาจำเป็นต้องรู้ว่าตนกำลังเชื่อมต่อกับกลุ่มเป้าหมายกลุ่มใด และสินค้าโฆษณาต่าง ๆ เช่น โฆษณาแบบเสียงหรือโฆษณาแบบแสดงผลบนหน้าจอจะส่งเสริมและขยายผลจากการลงทุนทางสตรีมมิ่งทีวีได้อย่างไร เมื่อเทียบกับสตรีมมิ่งทีวี การตรวจวัดโฆษณาทีวีแบบดั้งเดิมมักอาศัยการระบุแหล่งที่มาของทีวีหรือการวิเคราะห์โดยผู้ให้บริการเคเบิลหรือดาวเทียมและตัวแทน การตรวจวัดสตรีมมิ่งทีวีมีความครอบคลุมมากขึ้น และผู้โฆษณาสามารถใช้ประโยชน์จากข้อมูลเชิงลึกของกลุ่มเป้าหมายเพื่อทำความเข้าใจกลุ่มเป้าหมายที่แคมเปญของตนเข้าถึง ตัวอย่างเมทริกซ์ที่มีประโยชน์ในการวัดผลแคมเปญ ได้แก่ การเข้าถึงแบรนด์ การยกระดับแบรนด์ และการยกระดับแบบออฟไลน์
โซลูชันโฆษณาวิดีโอจาก HAQM Ads
HAQM Live เป็นประสบการณ์ไลฟ์สตรีมที่ผสมผสานระหว่างการเล่าเรื่อง ความมีปฏิสัมพันธ์ทางสังคม และความสามารถในการช้อปแบบเรียลไทม์เข้าไว้ด้วยกัน ไม่ว่าเป้าหมายของแคมเปญจะเป็นอะไร แบรนด์สามารถเข้าถึงชุดแอสเซทของชิ้นงานโฆษณาและจุดที่ลูกค้าเจอสินค้าบน HAQM เพื่อกระตุ้นการพิจารณาและการค้นพบสินค้าได้
โฆษณาวิดีโอออนไลน์ (OLV) เป็นโฆษณาที่จะปรากฏทั้งในสตรีม (ควบคู่กับเนื้อหาวิดีโอ) และนอกสตรีม (ในสภาพแวดล้อมที่ไม่ใช่วิดีโอ) บนเดสก์ท็อป มือถือ และแท็บเล็ต รวมถึงเว็บไซต์ในเครือของ HAQM เช่น IMDb.com และ Twitch รวมถึงผู้เผยแพร่โฆษณาชั้นนำที่เป็นบุคคลที่สาม โฆษณาเหล่านี้ซึ่งออกแบบมาเพื่อส่งเสริมการค้นพบและการพิจารณาสินค้า สามารถเข้าถึงได้ผ่าน HAQM DSP ทั้งในรูปแบบบริการแบบมีการจัดการให้และแบบบริการตนเอง
โฆษณาวิดีโอ Sponsored Brands ได้รับการออกแบบมาเพื่อช่วยให้นักช้อปค้นพบสิทธิประโยชน์ของแบรนด์และสินค้ามากขึ้น และช่วยกระตุ้นการจดจำแบรนด์ โฆษณาจะแสดงที่ด้านบนของการค้นหาหรือหน้ารายละเอียดสินค้าที่เกี่ยวข้อง บน HAQM (หน้าที่ผู้บริโภคเข้าชมหลังจากคลิกสินค้าในผลการค้นหา)
โฆษณาวิดีโอ Sponsored Display ช่วยให้คุณเข้าถึงและสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าใหม่หรือลูกค้าเดิมตลอดเส้นทางการซื้อด้วยวิดีโอที่สร้างการมีส่วนร่วม วิดีโอของคุณอาจปรากฏในผลการค้นหาการช้อปปิ้งบน HAQM หน้ารายละเอียดสินค้าใน HAQM Store หรือบนเว็บไซต์ที่ HAQM เป็นเจ้าของ อย่าง Twitch และ IMDb หรือเว็บไซต์และแอปของบุคคลที่สามที่มีอยู่หลากหลาย
Sponsored TV เป็นโซลูชันโฆษณาสตรีมมิ่งทีวีแบบบริการตนเองที่ให้ธุรกิจทุกขนาดสามารถสร้างแรงบันดาลใจและสร้างการมีส่วนร่วมกับลูกค้าบนหน้าจอที่ใหญ่ที่สุดในบ้านโดยไม่มีความเสี่ยงและไม่มีค่าใช้จ่ายขั้นต่ำ ด้วยการโฆษณาบนบริการสตรีมมิ่งสุดพิเศษของ HAQM เช่น Prime Video และ Twitch รวมถึงช่องทางของบุคคลที่สามผ่าน HAQM Publisher Direct ธุรกิจต่าง ๆ จะสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่เกี่ยวข้อง ซึ่งมีแนวโน้มที่จะสนใจสินค้าหรือแบรนด์ของตนมากกว่า โดยใช้สัญญาณช้อปปิ้งและสตรีมมิ่งบุคคลที่หนึ่งของ HAQM
โฆษณาสตรีมมิ่งทีวีช่วยให้แบรนด์เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายผ่านโฆษณาวิดีโอแบบเต็มหน้าจอที่ไม่สามารถข้ามได้ ซึ่งจะแสดงอย่างราบรื่นภายในเนื้อหาสตรีมมิ่งระดับพรีเมียมบนอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต โฆษณาเหล่านี้สามารถแสดงก่อน ระหว่าง หรือหลังรายการทีวี ภาพยนตร์ กีฬาถ่ายทอดสด และความบันเทิงรูปแบบอื่น ๆ บนช่องต่าง ๆ เช่น Prime Video, Twitch และบริการสตรีมมิ่งชั้นนำจากผู้ให้บริการบุคคลที่สาม ด้วยการเข้าถึงสัญญาณพฤติกรรมและบริบทของกลุ่มเป้าหมายจากข้อมูลบุคคลที่หนึ่ง ผู้โฆษณาจะสามารถสร้างการมีส่วนร่วมกับกลุ่มเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพผ่านเนื้อหาสตรีมมิ่งที่หลากหลาย ทั้งแบบเอ็กซ์คลูซีฟและที่ได้รับความนิยม ซึ่งช่วยขยายการเข้าถึงแบรนด์และส่งมอบข้อความที่ทรงพลังไปยังกลุ่มเป้าหมายในวงกว้างได้อย่างมีประสิทธิผล
ตัวอย่างการโฆษณาสตรีมมิ่งทีวี
กรณีศึกษา
บริษัทนายหน้าออนไลน์ที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งมีความสนใจที่จะเพิ่มการรับรู้ ความเข้าใจ และความตั้งใจซื้อที่มีต่อแบรนด์ของกลุ่มลูกค้าที่เป็นคนรุ่นใหม่ เรียนรู้เพิ่มเติมว่าการใช้ Audio ads และโฆษณาสตรีมมิ่งทีวีของ HAQM ร่วมกันส่งมอบผลลัพธ์ที่ดีให้กับแบรนด์ได้อย่างไร

กรณีศึกษา
HexClad Cookware ต้องการขยายกลยุทธ์ HAQM Ads ที่มีอยู่เดิม เพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายใหม่ที่มีความสนใจในเครื่องครัวระดับพรีเมียม โดยการผนวกโฆษณาสตรีมมิ่งทีวีที่มี Gordon Ramsay เข้าร่วม แบรนด์สามารถเพิ่มการรับรู้แบรนด์และการได้มาซึ่งลูกค้าใหม่ได้อย่างมีนัยสำคัญ เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีที่ HexClad ใช้โฆษณาสตรีมมิ่งทีวีเพื่อกระตุ้นการพิจารณากับกลุ่มเป้าหมายใหม่ ๆ

กรณีศึกษา
Char-Broil มีเป้าหมายในการแนะนำ Edge Grill ซึ่งเป็นอุปกรณ์ปิ้งย่างระบบไฟฟ้ารุ่นใหม่ ให้แก่กลุ่มเป้าหมายที่ยังไม่คุ้นเคยกับการปิ้งย่างด้วยระบบไฟฟ้า พวกเขาใช้บริการด้านชิ้นงานโฆษณาของ HAQM Ads ช่วยในการสร้างแคมเปญสตรีมมิ่งทีวี เพื่อจัดแสดงให้เห็นถึงประโยชน์ของสินค้า แคมเปญส่งผลให้มีอัตราการค้นหาแบรนด์สูงกว่าเกณฑ์มาตรฐาน 77% และอัตราการดูหน้ารายละเอียดสูงกว่าเกณฑ์มาตรฐาน 11% เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีที่ Char-Broil ใช้โฆษณาสตรีมมิ่งทีวีในการสร้างการรับรู้สำหรับหมวดหมู่สินค้าใหม่

กรณีศึกษา
Yamaha Boats และ WaveRunners มีเป้าหมายในการขยายการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายใหม่ ๆ และสร้างการรับรู้แบรนด์ โดยผ่านโฆษณาวิดีโอ พวกเขาได้นำโฆษณา Sponsored TV มาใช้เป็นครั้งแรก โดยร่วมมือกับ Marketwake และ Skai เพื่อเสริมกลยุทธ์บนสื่อโซเชียลและการค้นหาที่เสียค่าใช้จ่ายที่มีอยู่เดิม แนวทางนี้ส่งผลให้มีอัตราการคลิกต่อจำนวนการมองเห็น (CTR) จากสื่อโซเชียลที่เสียค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น 55% อัตรา CTR จากการค้นหาที่เสียค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น 58% และต้นทุนต่อการแสดงผลหนึ่งพันครั้งต่ำกว่ากลยุทธ์ทางทีวีที่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตอื่น ๆ 30% เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีที่ Yamaha ใช้ Sponsored TV เพื่อยกระดับกลยุทธ์การตลาดแบบรวมทุกช่องทางของตน

สรุป
ภูมิทัศน์สตรีมมิ่งทีวีที่มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลานั้นเต็มไปด้วยความเป็นไปได้และโอกาสสำหรับแบรนด์ต่างๆ เรารู้สึกตื่นเต้นที่จะช่วยให้คุณทำงานอย่างชาญฉลาดขึ้น ไม่ใช่หนักขึ้น เพื่อขยายการเข้าถึงของคุณและสร้างปฏิสัมพันธ์ที่ส่งผลกระทบและมีความเกี่ยวข้องกับลูกค้า ทุกสิ่งที่เราทำที่ HAQM Ads เป็นการสร้างประสบการณ์ลูกค้าที่ดียิ่งขึ้นและเพิ่มมูลค่าให้กับแบรนด์ ด้วยเหตุนี้ แคมเปญโฆษณาวิดีโอ OTT ของคุณจึงไปปรากฏต่อหน้ากลุ่มเป้าหมายที่เหมาะสมในเวลาที่เหมาะสม เพื่อการเชื่อมต่อที่มีประสิทธิภาพและยั่งยืนยิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับการใช้งานการโฆษณาสตรีมมิ่งทีวีของ HAQM ในกลยุทธ์แคมเปญดิจิทัลของคุณ
หากคุณต้องการรับการสนับสนุนและคำแนะนำเพิ่มเติม โปรดติดต่อขอรับบริการแบบมีการจัดการโดย HAQM Ads มีข้อกำหนดด้านงบประมาณขั้นต่ำ
1 Nielsen National TV Panel, พฤษภาคม 2023
2 Forbes Home, สิงหาคม 2024
3 eMarketer, กุมภาพันธ์ 2025
4 EMARKETER Forecast, ตุลาคม 2024
5 Statista, สหรัฐอเมริกา, พฤษภาคม 2024
6 Statista, สหรัฐอเมริกา, มีนาคม 2024
7 Kantar, เมษายน 2023
8 ข้อมูลภายใน HAQM, พฤษภาคม 2024