Prime Day: แนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดสำหรับผู้แต่งหนังสือ

เตรียมตัวให้พร้อมก่อนเวลา

• นำสิ่งที่เรียนรู้จากผลลัพธ์ของแคมเปญก่อนหน้าที่ดำเนินการในช่วง 30 วันก่อนวัน Prime Day มาใช้
• หากคุณไม่มีแคมเปญที่ใช้งานอยู่ ลองทดสอบใช้งานแคมเปญก่อนถึงวัน Prime Day เพื่อช่วยให้คุณเข้าใจว่าคีย์เวิร์ดใดทำงานได้ดีที่สุดสำหรับหนังสือของคุณ และปรับแต่งวิธีการระบุเป้าหมายให้เหมาะสม
• จัดทำแผนโดยเน้นองค์ประกอบหลักสี่ประการ นั่นคือ หนังสือที่คุณจะโฆษณา กลยุทธ์การระบุเป้าหมาย กลยุทธ์การประมูล และการจัดสรรงบประมาณของคุณ

นำพาหนังสือที่ดีที่สุดของคุณก้าวไปข้างหน้า

• ลองโฆษณาหนังสือที่คุณยังไม่เคยโฆษณา โดยเฉพาะหนังสือที่คุณกำลังกระตุ้นจำนวนการเข้าชมแบบออร์แกนิค
• ใช้ ASINs ในดีลและหนังสือที่มีประสิทธิภาพสูงสุดในแคมเปญของคุณเพื่อช่วยกระตุ้นและชักนำทราฟฟิกมายังโฆษณาของคุณ
• สำรวจวิธีอย่างง่ายในการอัปเดตและปรับปรุงหน้ารายละเอียดสินค้าของคุณเพื่อเพิ่มโอกาสในการสร้างยอดขาย

ใช้งบประมาณสำหรับอีเว้นต์ให้คุ้มค่าที่สุด

• หากคุณเคยจัดแคมเปญในช่วง Prime Day เมื่อปีที่แล้ว ลองใช้สิ่งที่ได้เรียนรู้มาเพื่อตัดสินใจเกี่ยวกับการใช้งบประมาณในปีนี้
• หากเป็นการโฆษณาในช่วง Prime Day ครั้งแรก ลองตั้งงบประมาณไว้ในใจสำหรับการโฆษณา ลองจัดสรรงบประมาณก้อนใหญ่ในช่วงก่อนถึงวัน Prime Day และในช่วงที่มีการจับจ่ายสูงสุดของอีเว้นต์ เพื่อให้ได้รับประโยชน์จากจำนวนการเข้าชมที่เพิ่มขึ้นในช่วงเวลาดังกล่าว
• จัดสรรและปรับราคาประมูลของคุณอีกครั้งเมื่อใกล้จบอีเว้นต์และเลยไปจนถึงหลังจบอีเว้นต์ เพื่อมีส่วนร่วมกับนักช้อปต่อไปขณะที่ยังอยู่ภายใต้งบประมาณที่วางไว้

การระบุเป้าหมายความสำเร็จ

ส่วนหนึ่งของกลยุทธ์การโฆษณาที่ประสบความสำเร็จคือการเข้าถึงและมีส่วนร่วมกับกลุ่มเป้าหมายที่เหมาะสมสำหรับหนังสือของคุณ คำแนะนำการระบุเป้าหมายของเราสามารถช่วยให้คุณบรรลุผลสำเร็จในช่วงอีเว้นต์ที่มีจำนวนการเข้าชมสูงนี้ หากต้องการเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับการกำหนดเป้าหมาย ไปที่หน้าให้ความช่วยเหลือด้านการกำหนดเป้าหมายของเรา

การกำหนดเป้าหมายอัตโนมัติและการกำหนดเป้าหมายด้วยตนเอง

มีกลยุทธ์การระบุเป้าหมายสองแบบสำหรับแคมเปญ Prime Day ของคุณ นั่นคือ แบบอัตโนมัติและแบบทำด้วยตนเอง ในการกำหนดเป้าหมายอัตโนมัติ² เราจะทำงานให้คุณโดยจะทำการจับคู่โฆษณาของคุณกับข้อความค้นหาในการช้อปปิ้งและสินค้า การกำหนดเป้าหมายด้วยตนเอง³ จะช่วยให้คุณสามารถควบคุมการเลือกคีย์เวิร์ดหรือสินค้าที่เฉพาะเจาะจง และตั้งราคาการประมูลตามนั้นได้

• ลองใช้การกำหนดเป้าหมายอัตโนมัติสำหรับแคมเปญ Prime Day ดู หากคุณต้องการเริ่มต้นอย่างรวดเร็วด้วย Sponsored Products แนวทางนี้ยังช่วยให้ข้อมูลเชิงลึกกับคุณว่า ลูกค้า Prime Day ใช้ข้อความค้นหาในการช้อปปิ้งแบบใดเวลาที่ช้อปหนังสือที่คล้ายกับหนังสือของคุณ การเรียกใช้แคมเปญด้วยตนเองพร้อมกันหลายแคมเปญและการใช้ข้อความค้นหาในการช้อปปิ้งที่คุณเห็นว่าเกี่ยวข้องกับหนังสือของคุณจะสามารถช่วยเพิ่มยอดขายได้
• ลองกำหนดเป้าหมายเองสำหรับแคมเปญ Prime Day ดู หากคุณจะสร้างแคมเปญของ Sponsored Brands หรือหากคุณเคยใช้แคมเปญที่มีการระบุเป้าหมายอัตโนมัติด้วย Sponsored Products มาก่อน และมีข้อมูลเพียงพอจากรายงานที่ได้มา ด้วยวิธีนี้ คุณจะแม่นยำยิ่งขึ้นโดยการเพิ่มคำค้นหาประสิทธิภาพสูง หรือคำค้นหาที่มียอดขายและอัตราการคลิกต่อจำนวนการมองเห็น (CTR) สูง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการคอนเวอร์ชัน

การกำหนดเป้าหมายคีย์เวิร์ด

• ในช่วงหลายสัปดาห์ก่อนถึง Prime Day ลองตรวจสอบแคมเปญของคุณเพื่อหาคีย์เวิร์ดประสิทธิภาพสูง ใช้รายงานข้อความค้นหาของคุณเพื่อระบุข้อความที่มียอดขายและ CTR สูง และรวมไว้เป็นคีย์เวิร์ดในแคมเปญ Prime Day ของคุณ อย่าลืมเพิ่มคีย์เวิร์ดเฉพาะหมวดหมู่ซึ่งบ่งบอกถึงสินค้าของคุณได้เป็นอย่างดี ทั้งนี้ เพื่อให้โฆษณาของคุณมีความเกี่ยวข้องกับลูกค้าที่กำลังเลือกช้อปหนังสือที่คล้ายกันกับหนังสือของคุณ
• ทดสอบคีย์เวิร์ดใหม่ในแคมเปญ Prime Day ของคุณ วิธีนี้ช่วยให้คุณเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายจำนวนมากขึ้นและมีการมองเห็นหนังสือมากขึ้น
• เพิ่มจำนวนคีย์เวิร์ดในแคมเปญของคุณในช่วง Prime Day เพื่อช่วยให้โฆษณาปรากฏในการค้นหาสำหรับการช้อปปิ้งมากขึ้น คีย์เวิร์ดเหล่านี้อาจเป็นคีย์เวิร์ดที่คุณเลือกจากแคมเปญที่ผ่านมารวมกับคีย์เวิร์ดที่แนะนำไว้ในตัวสร้างแคมเปญ
• ใช้การจับคู่หลายประเภทผสมกันเพื่อสร้างกลยุทธ์หลายเป้าหมาย การจับคู่คีย์เวิร์ดแบบกว้างจะช่วยเพิ่มการเข้าถึงของคุณ ในขณะที่การจับคู่แบบแม่นยำและการจับคู่วลีจะช่วยให้คุณกำหนดเป้าหมายคีย์เวิร์ดที่มีคอนเวอร์ชันดีสำหรับคุณได้อย่างแม่นยำ ค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับประเภทการจับคู่ในหน้าความช่วยเหลือนี้
• ระวังการใช้คีย์เวิร์ดต้องห้าม หลีกเลี่ยงการใช้คีย์เวิร์ดที่อาจส่งผลให้เกิดประสบการณ์นักช้อปที่ไม่เหมาะสม ขาดความละเอียดอ่อน หรือไม่พึงประสงค์ เนื่องจากโฆษณาของคุณจะไม่ปรากฏขึ้นเมื่อมีการใช้คีย์เวิร์ดดังกล่าว เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับข้อจำกัดในการกำหนดเป้าหมายในหน้าความช่วยเหลือนี้

การระบุเป้าหมายสินค้า

• ใช้การกำหนดเป้าหมายสินค้าสำหรับแคมเปญ Prime Day ของคุณ เพื่อขยายการเข้าถึงภายในหมวดหมู่สินค้า สร้างการมีส่วนร่วมกับลูกค้าที่ช้อปแบรนด์ของคุณ หรือกำหนดเป้าหมายหนังสือหรือผู้แต่งที่คล้ายกับคุณ
• ในช่วงหลายสัปดาห์ก่อนถึง Prime Day ลองติดตามแคมเปญของคุณเพื่อมองหาความสำเร็จ ใช้การรายงานระดับหมวดหมู่และระดับ ASIN เพื่อดูข้อมูลของคุณ จากนั้นให้สร้างแคมเปญ Prime Day เกี่ยวกับหนังสือและหมวดหมู่ที่ใช้งานได้ดีในแคมเปญของคุณ
• หลีกเลี่ยงสินค้าต้องห้าม อย่านำสินค้าใด ๆ ที่ถูกจำกัดมาใส่ไว้ในการกำหนดเป้าหมายของแคมเปญ คุณอาจใส่ชื่อสินค้าต้องห้ามลงไปได้ตอนที่ตั้งค่าแคมเปญ แต่โฆษณาของคุณจะไม่ทำงานตามเป้าหมายดังกล่าว ค้นหาเพิ่มเติมเกี่ยวกับสิ่งต้องห้ามต่าง ๆ
• ไม่แน่ใจว่าจะระบุเป้าหมายอะไรใช่หรือไม่ ใช้ประโยชน์จากคำแนะนำในการกำหนดเป้าหมายสินค้าสำหรับเทศกาล Prime Day ของเราซึ่งอยู่ใต้แท็บ "แนะนำ" ในส่วนการกำหนดเป้าหมายสินค้าในโปรแกรมจัดการแคมเปญ

การกำหนดเป้าหมายเชิงลบ

• ป้องกันไม่ให้โฆษณาของคุณปรากฏในหน้าผลการช้อปปิ้งที่ไม่ตรงกับเป้าหมาย Prime Day ของคุณ คุณสามารถระบุเป้าหมายคีย์เวิร์ดเชิงลบ สินค้าเชิงลบ หรือทั้งสองอย่างได้ ขึ้นอยู่กับว่าคุณกำลังใช้แคมเปญอัตโนมัติหรือแคมเปญแบบกำหนดด้วยตนเอง
• ตัดข้อความค้นหาสำหรับการช้อปปิ้งที่มีประสิทธิภาพต่ำและไม่เกี่ยวข้องในแคมเปญ Prime Day ของคุณออกไป รวมถึงตัดข้อความค้นหาสำหรับการช้อปปิ้งที่มีค่าใช้จ่ายสูงแต่มียอดขายต่ำมากหรือไม่มีเลยทั้งหมดออกไปด้วย

การกำหนดราคาประมูลและงบประมาณของคุณ

จำนวนการเข้าชมที่เพิ่มขึ้นในช่วง Prime Day อาจส่งผลให้โฆษณาของคุณปรากฏบ่อยขึ้น ซึ่งนำไปสู่ยอดคลิกที่มากขึ้น เมื่อมียอดคลิกเพิ่มขึ้น งบประมาณในแคมเปญของคุณอาจหมดเร็วกว่าปกติ

แคมเปญโฆษณาที่ใช้งบประมาณเต็มที่และมีการแสดงตลอดทั้งวันจะมีโอกาสเข้าถึงนักอ่านและกระตุ้นยอดขายได้มากกว่า ดังนั้น การติดตามการประมูลและงบประมาณของคุณบ่อย ๆ ตลอดช่วง Prime Day จึงมีความสำคัญยิ่งขึ้น

ต่อไปนี้คือคำแนะนำ 4 ข้อที่จะช่วยให้มั่นใจว่าการใช้จ่ายในการโฆษณาของคุณจะมีประสิทธิภาพมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ และแคมเปญของคุณจะได้รับการปรับให้เหมาะสมเพื่อเข้าถึง มีส่วนร่วม และกระตุ้นให้ลูกค้าเกิดการซื้อ:

• เตรียมพร้อมสำหรับจำนวนการเข้าชมที่อาจเพิ่มขึ้น การเพิ่มงบประมาณรายวันของคุณ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับแคมเปญที่มียอดคลิกหรือยอดขายสูง สามารถช่วยให้มั่นใจว่าคุณจะไม่ใช้งบประมาณจนหมดและพลาดการขายที่อาจเกิดขึ้นก่อน ระหว่าง และหลัง Prime Day การตั้งกฎงบประมาณเพื่อเพิ่มงบประมาณของคุณโดยอัตโนมัติในช่วง Prime Day เป็นวิธีง่าย ๆ ในการช่วยป้องกันไม่ให้แคมเปญของคุณใช้งบประมาณหมด เราแนะนำให้เพิ่มงบประมาณตามที่ HAQM Ads แนะนำเป็นเปอร์เซ็นต์ ซึ่งจะอิงตามประวัติการช้อปในช่วง Prime Day ที่ผ่านมา⁴
• โยกงบประมาณของคุณไปยังแคมเปญที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด พิจารณาการจัดสรรงบประมาณทั้งหมดหรือบางส่วนใหม่อีกครั้ง จากแคมเปญที่มีความคืบหน้าต่ำไปยังแคมเปญที่มีประสิทธิภาพสูง ซึ่งจะทำให้การใช้จ่ายในการโฆษณาของคุณมีประสิทธิภาพมากขึ้น และช่วยให้คุณบรรลุเป้าหมายการโฆษณาในช่วง Prime Day โดยไม่เกินงบประมาณที่ตั้งไว้
• ปรับการประมูลโดยใช้ข้อมูลเชิงลึกจากแคมเปญล่าสุด การเรียนรู้จากแคมเปญที่เกี่ยวข้องซึ่งมีการใช้งานในช่วง 30 วันที่ผ่านมาช่วยให้คุณพร้อมสำหรับความสำเร็จ การลดหรือหยุดการประมูลคีย์เวิร์ดประสิทธิภาพต่ำในช่วง 30 วันที่ผ่านมา และการเพิ่มการประมูลคีย์เวิร์ดที่สร้างยอดขาย สามารถช่วยเพิ่มจำนวนการเข้าชมโฆษณาของคุณได้ หากคุณกำลังตั้งค่าแคมเปญใหม่ เราขอแนะนำให้ใช้คำแนะนำการประมูลสำหรับ Prime Day ซึ่งอยู่ในคอนโซลการโฆษณา
• ใช้การประมูลแบบไดนามิกเพื่อเพิ่มโอกาสในการผลักดันยอดขาย การประมูลแบบไดนามิกสามารถช่วยคุณประหยัดเวลาและเพิ่มประสิทธิภาพของแคมเปญตลอด Prime Day โดยอนุญาตให้ HAQM Ads ปรับการประมูลแบบเรียลไทม์โดยอัตโนมัติ การประมูลแบบไดนามิก (เพิ่มและลด) จะเพิ่มราคาประมูลเมื่อโฆษณาของคุณมีแนวโน้มที่จะกระตุ้นยอดขาย และลดราคาประมูลเมื่อมีโอกาสน้อยที่จะกระตุ้นยอดขาย