เนื้อหาที่มีแบรนด์

เนื้อหาที่มีแบรนด์เป็นรูปแบบหนึ่งของการทำการตลาดแบรนด์ ที่แบรนด์ใช้ในการสร้างและรักษาความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นกับผู้บริโภค ผ่านการพัฒนาเนื้อหาที่มีคุณค่าและ/หรือให้ความบันเทิง เนื้อหาที่มีแบรนด์อาจไม่อ้างอิงถึงสินค้าอย่างเฉพาะเจาะจง เนื่องจากมีจุดมุ่งหมายที่จะช่วยสร้างคุณค่าของแบรนด์เป็นหลัก ซึ่งตรงข้ามกับการโฆษณาแบบดั้งเดิม เนื้อหาที่มีแบรนด์ หรือที่เรียกอีกอย่างว่า “ความบันเทิงที่มีแบรนด์” มักใช้ประโยชน์จากอินฟลูเอนเซอร์และครีเอเตอร์บุคคลที่สาม รวมถึงพาร์ทเนอร์แบบเสียค่าใช้จ่าย เพื่อช่วยดึงดูดความสนใจจากกลุ่มเป้าหมาย

เนื้อหาที่มีแบรนด์มีความสำคัญ เพราะเปิดโอกาสให้แบรนด์สามารถโดดเด่นในสภาพแวดล้อมสื่อที่มีการแข่งขันสูง เชื่อมต่อกับผู้บริโภคอย่างจริงใจ และสร้างความไว้วางใจจากลูกค้าได้ ด้วยการผสานระหว่างการเล่าเรื่องและการตลาด เนื้อหาที่มีแบรนด์ช่วยให้แบรนด์สามารถถ่ายทอดบุคลิกและค่านิยมที่เป็นเอกลักษณ์ของตนเองในรูปแบบที่กลุ่มเป้าหมายรู้สึกเชื่อมโยงได้อย่างเป็นธรรมชาติ

ความแตกต่างระหว่าง “เนื้อหาที่มีแบรนด์” และ “ความบันเทิงที่มีแบรนด์” คือ “เนื้อหาที่มีแบรนด์” ครอบคลุมเนื้อหาทุกรูปแบบที่ผลิตโดยแบรนด์ (รวมถึงเนื้อหาสร้างความเป็นผู้นำทางความคิด อินโฟกราฟิก โซเชียลมีเดีย และอีเว้นต์ต่าง ๆ) ในขณะที่ “ความบันเทิงที่มีแบรนด์” จะหมายถึงเนื้อหาที่แบรนด์ผลิตขึ้นโดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างความบันเทิงให้กับกลุ่มเป้าหมายโดยเฉพาะ (เช่น ภาพยนตร์และรายการโทรทัศน์ ดนตรี พอดแคสต์ และวิดีโอเกม) อย่างไรก็ตาม ทั้งสองคำนี้มักใช้แทนกันได้

ในการสร้างเนื้อหาที่มีแบรนด์ที่สร้างการมีส่วนร่วม จำเป็นต้องมีความเข้าใจที่ชัดเจนเกี่ยวกับกลุ่มเป้าหมายหลักของคุณ ประเด็นและคุณค่าที่พวกเขาให้ความสำคัญ รวมถึงความชื่นชอบด้านสื่อและความบันเทิงของพวกเขา (เช่น หัวข้อ แนว ครีเอเตอร์ และรูปแบบสื่อที่ชื่นชอบ) เมื่อพัฒนาเนื้อหาที่มีแบรนด์ คุณควรมุ่งเน้นที่การส่งมอบคุณค่าให้กับกลุ่มเป้าหมายเป็นหลัก (แทนที่จะเน้นการโปรโมตแบรนด์) ไม่ว่าจะเป็นผ่านความบันเทิง การให้ความรู้ หรือแรงบันดาลใจ

เนื้อหาที่มีแบรนด์ให้ประโยชน์และข้อดีหลายประการแก่นักการตลาด รวมถึงสิ่งต่อไปนี้

ตัวชี้วัดสำคัญสำหรับการวิเคราะห์ผลกระทบของเนื้อหาที่มีแบรนด์ ได้แก่ ยอดเข้าชม เวลาที่หยุดดู จำนวนการเข้าชมเว็บไซต์ การมีส่วนร่วมบนโซเชียลมีเดีย (รวมถึงจำนวนผู้ติดตาม การกดถูกใจ ความคิดเห็น การแชร์ การใช้แฮชแท็ก และการกล่าวถึงแบรนด์) และคอนเวอร์ชัน นักการตลาดยังสามารถดำเนินการศึกษาการยกระดับแบรนด์ เพื่อช่วยวัดผลกระทบของโครงการเนื้อหาที่มีแบรนด์ในเชิงปริมาณได้อีกด้วย